PDPA

นโยบายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อตกลงการให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้าพเจ้า ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ (“ผู้ใช้บริการ”) ของกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ หรือส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (“กระทรวง”) ยินยอมให้กระทรวงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าที่มีอยู่กับกระทรวงภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

  1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

    ข้อมูลทั่วไป หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

  2. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    - เพื่อให้บริการตรงตามต้องการของผู้ใช้บริการ กระทรวงจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อที่ผู้ใช้บริการจะสามารถได้รับข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้บริการตามที่ผู้ใช้บริการร้องขอ ในกรณีดังต่อไปนี้

    • การพิจารณาอนุมัติและ/หรือให้บริการต่าง ๆ เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม การสมัครเข้าร่วมสัมมนา การประชุม การใช้ข้อมูลเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายจากการสัมมนา การประชาสัมพันธ์ การเชิญชวนเข้าร่วมโครงการ การส่งข้อมูลข่าวสารของกระทรวง
    • การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น ปรับแก้ไขข้อมูล การติดต่อ การแจ้ง การประสานงาน การเชื่อมโยงข้อมูล รวมถึงการรับ-ส่งข้อมูลดิจิทัลระหว่างหน่วยงาน

    หากผู้ใช้บริการปฏิเสธไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่กระทรวง อาจทำให้กระทรวงไม่สามารถจัดหาข้อมูลข่าวสารและ/หรือให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ รวมถึงไม่สามารถเข้าใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงตามช่องทางที่เปิดให้บริการได้

    - เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น กระทรวงมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลผู้ใช้บริการ ข้อมูลหนังสือ นอกจากนี้ กระทรวงมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงกระทรวงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ หากผู้ใช้บริการปฏิเสธไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่กระทรวง อาจทำให้กระทรวงไม่สามารถจัดหาข้อมูลข่าวสารและ/หรือให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้

    - เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกระทรวง หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น

    • การรักษาความสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการ เช่น การให้บริการลูกค้า การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลผู้ใช้บริการโดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวง การสื่อสารหรือนำเสนอข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ผู้ใช้บริการมีอยู่กับกระทรวงซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการเป็นระยะ ๆ
    • การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ
    • การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
    • วัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ต่อสังคม กระทรวงมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติหรือประชาสัมพันธ์กระทรวง เช่น บันทึกการร่วมกิจกรรมสัมมนา อบรม และการประชุม

    - เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์จากการใช้ข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการ ตามที่ผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมไว้ เช่น เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ เป็นต้น

    ในกรณีที่ผู้ใช้บริการปฏิเสธไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่กระทรวง อาจทำให้กระทรวงไม่สามารถให้บริการผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความคาดหวังของผู้ใช้บริการ

  3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

    - จากผู้ใช้บริการโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ผู้ใช้บริการกรอกขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการ ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้บริการสมาชิก, หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ผู้ใช้บริการติดต่อกับผู้ใช้บริการอื่น ๆ ข้อมูลจากการใช้ข้อมูลข่าวสาร และ/หรือบริการของกระทรวง การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ และช่องทางอื่น ๆ ของกระทรวง ตลอดจนข้อมูลในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแพลตฟอร์ม, การทำสำรวจ, งานสัมมนา และ การประชุม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ของกระทรวง

    - เทคโนโลยีการติดตาม (tracking technology) เมื่อลูกค้าใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของกระทรวง

    - สมาชิกในกระทรวง

    - บุคคลภายนอก เช่น

    • หน่วยงานของรัฐ/เอกชน
    • ผู้ประกอบการ
    • ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
    • ผู้ให้บริการข้อมูล
    • โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม และผู้ให้บริการโฆษณาต่าง ๆ

    ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของข้อมูลข่าวสารและการให้บริการของกระทรวงให้ดียิ่งขึ้น

  4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

    กระทรวงจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า ซึ่งอาจมีกำหนดประมาณ 5 – 10 ปี หรือเกินกว่านั้นเท่าที่จำเป็น เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล

  5. กระทรวงจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการก่อน อย่างไรก็ดี ผู้ใช้บริการรับทราบและยินยอมว่า เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กระทรวงอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้กับบุคคลต่อไปนี้

    • เจ้าหน้าที่ในกระทรวง เช่น เจ้าหน้าที่คลัง
    • ผู้รับจ้างที่กระทรวงว่าจ้าง
    • พันธมิตรทางธุรกิจ
    • ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศ
    • หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

    โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว กระทรวงจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่กระทรวงได้กำหนดไว้

    ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กระทรวงได้รับจากผู้ใช้บริการ จะถูกเก็บไว้บนศูนย์ข้อมูล (Cloud) ของผู้ให้บริการประมวลข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ทั้งนี้ การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการของกระทรวงไปยังผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูลภายนอกดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ ซึ่งกระทรวงได้ตรวจสอบและเลือกผู้ให้บริการอย่างรอบคอบและมีข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและขอบเขตการประมวลผลข้อมูลกับผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่กระทรวง จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมในการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดนและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น อย่างไรก็ดี หากผู้ใช้บริการเชื่อว่าบุคคลที่กระทรวงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่กระทรวงได้กำหนดไว้ ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งกระทรวงตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

    นอกจากนี้ กระทรวงอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของกระทรวง ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร กระทรวงอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่กระทรวงเก็บรวบรวมไว้ไปยังส่วนที่เกี่ยวข้อง

  6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ หรือส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    กระทรวงอาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ที่กระทรวงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ หรือส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหน่วยงานปลายทางที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

  7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    การแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการสามารถแก้ไขหรือแจ้งลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ตลอดเวลาผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับกระทรวง หรือดำเนินการ ทั้งนี้ การลบข้อมูลอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากกระทรวงได้ หรืออาจทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพตามความคาดหวังของผู้ใช้บริการ

    ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบหรือฐานข้อมูลผู้ใช้บริการของกระทรวงนั้น กระทรวงจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นจะเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเพื่อเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ

    อย่างไรก็ดี แม้ว่ากระทรวงจะได้ดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงมีการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) หรือสื่อจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ ของกระทรวง เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ

    การขอเข้าถึง และขอสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูลส่วนบุคคล การขอให้เปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ การจำกัดหรือระงับการใช้ การปฏิเสธการประมวลผลข้อมูล ผู้ใช้บริการสามารแจ้งผ่านแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” ผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการเพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับกระทรวงได้

    การยกเลิกความยินยอม ผู้ใช้บริการสามารถถอนความยินยอมของผู้ใช้บริการที่ได้ให้แก่กระทรวงเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการรับข้อมูลและข่าวสารประชาสัมพันธ์จากกระทรวงได้ทุกเวลาด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ

    การร้องเรียน ผู้ใช้บริการมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กระทรวงกระทรวงหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของกระทรวงหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าวผลการเพิกถอนความยินยอม โดยแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ

    เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมให้กระทรวงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น โดยแจ้งให้กระทรวงทราบและกระทรวงอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น ทั้งนี้เมื่อเพิกถอนความยินยอมให้กระทรวงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้นแล้ว บัญชีผู้ใช้งานของเจ้าของข้อมูลจะถูกระงับการใช้งานและไม่สามารถเข้าใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ผ่านช่องทางที่กระทรวงเปิดให้บริการได้

    ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอม ให้กระทรวงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลกระทบต่อผู้เพิกถอนการให้ความยินยอมเกี่ยวกับการพิจารณารับประกันภัย หรือการให้บริการลูกค้าหรือการให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย และส่งผลให้กระทรวงไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยได้

  8. ช่องทางติดต่อ

    ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อกระทรวงได้ตามที่อยู่ต่อไปนี้ เลขที่ 563 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 หรือผ่านทางแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” ในเว็บไซต์ www.moc.go.th

    เพื่อให้การปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของกระทรวงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของกระทรวงเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งกระทรวงได้ผ่านช่องทางที่ได้ประกาศไว้ในเว็บไซต์ www.moc.go.th